บทความนี้ ORRA จะพามารู้จักกับปัญหาทางด้านสายตา และวิธีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยจะเน้นการแก้ไขปัญหาด้วยแว่นสายตา จาก 6 ข้อควรรู้ดังนี้
ปัจจุบันคนทั่วโลกมีสถิติจำนวนของผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตามากขึ้น โดยมีสาเหตุมากจากหลากหลายปัจจัย
ตั้งแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปมีการใช้สายตาที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่เป็นผลดีกับสายตามากขึ้น เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ติดกันเป็นเวลานาน ๆ ที่ต้องใช้การเพ่งสายตาเป็นเวลานาน
ทำให้ตาแห้งและมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา หรือระยะการมองที่คงตัวทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงแสงจากหน้าจอที่เป็นอันตรายต่อดวงตาในอนาคตอีกด้วย
ความผิดปกติทางด้านสายตามีอะไรบ้าง
ปัญหาทางด้านสายตามีอยู่หลากหลายอาการที่เกิดขึ้น โดยความผิดปกติทางด้านสายตาจะเป็นปัญหาอาการตามัว หรือการมองไม่ชัดในระยะใดระยะหนึ่งอันเนื่องมาจากค่าสายตาที่ผิดปกติ
ซึ่งค่าสายตาที่ผิดปกติสามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง กว่าปกติ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงมั้ย และมากน้อยแค่ไหน
การที่เราจะสามารถรู้ว่าเรามีค่าสายตาที่ผิดปกติหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง สิ่งแรกที่เราต้องเข้าใจก่อนคือ ค่าสายตาที่ปกติ คือ เท่าใด
โดยค่าสายตาที่ปกติของคนเรา คือ 0 ไดออปเตอร์ หรือเรียกว่า Plano ไม่เป็นลบ หรือบวก
- หากเป็นลบ คือ สายตาสั้น และเป็นบวกคือสายตายาว
- จากการตรวจค่าสายตาด้วยเครื่องวัดค่าสายตา หรือ snellen chart
- หากทดสอบด้วยการอ่านตัวเลขจาก snellen chart จะมีตัวเลขที่บอกความสามารถในการอ่านของเรา เช่น 20/20
- 20/20 หมายถึง ค่าเลข 20 ที่เป็นตัวเศษ หมายถึงระยะห่างในหน่วยฟุตระหว่างผู้ทดสอบจนถึง chart ตัวเลข ส่วนเลข 20 ที่เป็นตัวส่วนจะหมายถึงระยะห่างในหน่วยฟุตที่คนสายตาปกติสามารถอ่านเห็นได้ในบรรทัดเดียวกัน
ประการที่สอง คือ ค่าสายตาสั้น ยาว และเอียง สามารถแบ่งได้เป็น 2 ระดับหลัก ๆ คือ ระดับที่น้อย คือ + หรือ – ไม่เกิน 2 ไอดอปเตอร์ ซึ่งค่าสายตาที่ผิดปกติระดับนี้อาจไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก จะใส่แว่นสายตาหรือไม่ใส่ก็ได้
และระดับที่มาก คือ มีค่าสายตาที่เป็น + หรือ – มากกว่า 2D ซึ่งค่าสายตาที่ผิดปกติระดับนี้จะส่งผลต่อการใชีชีวิตเป็นอย่างมาก ควรใส่แว่นสายตาเพื่อให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก
การแก้ไขปัญหาความผิดปกติทางด้านสายตามีอะไรบ้าง
แท้จริงแล้ว การแก้ไขปัญหาความผิดปกติจากค่าสายตามีหลากหลายวิธี ซึ่งมีวิธีการที่เป็นที่นิยมใช้กัน 3 วิธีการ คือ
-
การสวมแว่นสายตา
ที่มีค่าของเลนส์ตรงกันข้ามกับค่าสายตาของแต่ละบุคคลเพื่อหักลบให้การมองเห็นเป็นระยะที่เป็นปกติ เช่น หากมีค่าสายตาที่ -3 ไดออปเตอร์ ก็ต้องสวมแว่นสายตาที่มีค่าของเลนส์ +3 ไดออปเตอร์ ซึ่งโดยในภาษาทั่วไปมักเรียกกันเป็นหลักร้อยและหลักพัน โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
-
การสวมคอนแทคเลนส์
การสวมคอนแทคเลนส์จะมีหลักการแก้ไขปัญหาที่คล้ายคลึงกับการสวมแว่นสายตา คือ การให้มองผ่านเลนส์ที่มีค่าสายตาตรงข้ามเพื่อให้การมองเห็นเป็นระยะที่ปกติ แต่มีความแตกต่างกันตรงที่คอนแทคเลนส์จะเป็นแผ่นบาง ๆ ติดที่ตา จึงจะมีความสวยงามมากกว่า
-
การผ่าตัดด้วยเลเซอร์หรือการทำเลสิค
เป็นการแก้ไขปัญหาทางกายภาพที่โครงสร้างของดวงตาที่ทำให้ค่าสายตาผิดปกติ เพื่อทำให้ค่าสายตากลับมาปกติโดยไม่ต้องสวมแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์
แว่นสายตาแว่นสายตาสำเร็จรูป VS สั่งตัดพิเศษ
แว่นสายตามีอยู่หลากหลายแบบให้เลือก โดยแว่นสายตาที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 หมวดหมู่หลัก คือ
-
แว่นสายตาสำเร็จรูป
คือ แว่นพร้อมใส่ ที่ประกอบเลนส์กับกรอบแว่นเรียบร้อยแล้ว ท่านอาจสามารถเลือกซื้อได้จากการทดลองหลาย ๆ อันโดยไม่ต้องวัดค่าสายตา
มีข้อดี คือ ราคาถูก แต่มีข้อเสีย คือ มักทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดตา ภาพไม่ชัด เมื่อยล้าเวลาใส่นาน ๆ เนื่องจากไม่ได้ทำตามค่าสายตาของแต่ละคนอย่างละเอียด และมักมีคุณภาพที่ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับแว่นแบบสั่งตัด
-
แว่นสายตาสั่งตัดพิเศษ (LAB)
คือ แว่นที่สั่งตัดคนต่อคน หรือเฉพาะบุคคล จากการวัดค่าสายตาอย่างละเอียด และมีการประกอบแว่นตรงจุดกึ่งกลางตาดำของทั้งสองข้าง
ข้อดี คือ เป็นแว่นที่ทำขึ้นเฉพาะแต่ละคนจึงเป็นแว่นที่เหมาะสมกับค่าสายตาของผู้สวมใส่แต่ละคน นอกจากนั้นยังมีเลนส์และกรอบแว่นให้เลือกหลากหลายแบบตามความต้องการอีกด้วย
ข้อเสีย คือ ราคาสูงกว่า แต่คนส่วนใหญ่มักนิยมใช้แว่นแบบสั่งตัดเนื่องจากได้แว่นที่มีคุณภาพ และใช้งานได้จริง
เลนส์แว่นสายตามีกี่แบบ อะไรบ้าง
องค์ประกอบของแว่นสายตาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ เลนส์แว่นสายตา และกรอบแว่นสายตา
ซึ่งเลนส์แว่นสายตานี่เองที่มีผลโดยตรงต่อการแก้ไขปัญหาความผิดปกติของค่าสายตา ด้วยการทำเลนส์ที่มีค่าสายตาตรงข้ามกับค่าสายสายตาของแต่ละบุคคล
แต่นอกจากนั้นเลนส์แว่นสายตายังสามารถแบ่งออกเป็นเลนส์ชนิดต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้มากขึ้น
แบ่งออกเป็น 11 ประเภท ดังนี้
- เลนส์สายตาชั้นเดียว (Single lens)
- เลนส์ลดการเพ่งผ่อนคลายดวงตา (Eye Relax Lens)
- เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก (Myopia Control Lens)
- เลนส์สายตาย้อมสีกันแดด (SunTint Lens)
- เลนส์ปริซึม (Prism Lens)
- เลนส์ขับรถ ตัดแสง Glare ยามกลางคืน
- เลนส์สายตาสำหรับกรองแว่นโค้ง Sport
- เลนส์สายตาสองชั้น(Bifocal lens)
- เลนส์ระยะกลาง-ใกล้ ( Office Lens / Degressive Lens)
- เลนส์โปรเกรสซีฟ มองเห็นคมชัดทุกระยะ (Progressive lens)
- เลนส์โปรเกรสซีฟสำหรับขับรถ (Progressive Lens For Driving)
Coating Option ของแว่นสายตามีอะไรบ้าง
หลายคนอาจยังไม่รู้จัก Coating Option ที่อธิบายง่าย ๆ คือ คุณสมบัติเพิ่มเติมของเลนส์แว่นสายตาที่เราสามารถเพิ่มเข้าไปได้นอกจากเลนส์ทั้ง 11 ประเภทดังกล่าว
ซึ่งการเพิ่ม Option แต่ละ Option จะสามารถเพิ่มได้กับเลนส์สายตาบางประเภทเท่านั้น
โดยในที่นี้เราจะพามารู้จักกับ Option ของเลนส์แว่นสายตาหลัก ๆ ทั้ง 3 Option ดังนี้
Coating Option หรือคุณสมบัติของเลนส์
-
มัลติโค้ท ( Multocoat )
เป็น Coating พื้นฐานของแว่นสายตาที่ช่วยลดแสงสะท้อน ลดเงาบนหน้าเลนส์ ลดการเกิดรอยนิ้วมือ การจับของฝุ่นบนผิวเลนส์
จึงทำให้เลนส์มีความใสและคมชัด ผิวเลนส์ลื่นสัมผัสเช็ดทำความสะอาดง่าย พร้อมทั้งยังป้องกันรังสียูวีได้ในตัวแม้เป็นเลนส์ใส
ช่วยป้องกันคลื่นแสงสีน้ำเงินอมม่วงหรือแสงสีฟ้าที่คงค้างจากหน้าจอดิจิทัล เช่น จอคอมพิวเตอร์ หรือจอโทรศัพท์
เนื้อเลนส์มีความเหลืองนวลเล็กน้อยจึงทำให้มีความสบายตากว่าเลนส์ทั่วไปเมื่อสวมใส่ใช้กับหน้าจอดิจิทัลต่างๆ และป้องกัน UVA / UVB ได้ 100%
คุณสมบัติของเลนส์ที่ช่วยให้เลนส์สายตาชนิดใส สามารถเปลี่ยนสีเข้มเป็นสีเข้มเหมือนแว่นกันแดดได้โดยอัตโนมัติ ช่วยถนอมสายตาจากแสงแดดจ้า ป้องกันยูวี 100% ลดอาการแสบตาและปวดตาเมื่ออยู่กลางแจ้ง ทำให้ผู้สวมใส่มีความสบายเสมือนใส่แว่นกันแดด
บทสรุป :
อย่างไรก็ตามยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องพิจารณาเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานแว่นสายตาที่เพิ่มขึ้น คือ กรอบแว่นสายตา
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของแว่นสายตา สามารถอ่านต่อได้ที่ http://orralens.com/framebrand/ ส่วนการเลือกเลนส์แว่นสายตานั้น ควรเลือกจากการปรึกษากับนักทัศนมาตรหรือหมอสายตาเพื่อความตอบโจทย์ในการใช้งานมากที่สุด
ซึ่งหากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการรับคำปรึกษา มาหาเราที่ ORRA ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 – 20:00น. ทักเราที่นี่ค่ะ LINE:@orra-od