รีวิวขั้นตอนตรวจสายตาแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มจนตัดแว่น

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า “ตรวจสายตาที่ไหนดี” หรือ “ตัดแว่นที่ไหนดี” บทความนี้จะพาไปรู้จักทุกขั้นตอนของการ ตรวจสายตาแบบครบวงจรที่ ORRA ตั้งแต่เริ่มจองคิวจนถึงวันที่ได้แว่นกลับบ้านจริง

พร้อมรีวิวอย่างละเอียดทุกช่วง ตั้งแต่การจอง การตรวจวัดสายตา การทดลองเลนส์ การเลือกกรอบ ไปจนถึงขั้นตอนชำระเงิน เพื่อให้เห็นภาพครบว่าทำไมการตรวจสายตาอย่างถูกต้องจึงสำคัญกับการมองเห็นในชีวิตประจำวัน

การตรวจสายตาในปัจจุบันไม่ใช่แค่ดูว่ามองชัดหรือไม่ แต่ยังช่วยบ่งบอกถึงสุขภาพตาโดยรวม เช่น ภาวะสายตาสั้น ยาว เอียง หรือแม้แต่สัญญาณของโรคตาในระยะเริ่มต้น

การตรวจวัดสายตาที่ละเอียดและได้มาตรฐานจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้แว่นที่พอดี ใส่สบาย และมองเห็นคมชัดในระยะยาว

ขั้นตอนการจองคิวและเตรียมข้อมูลส่วนตัว

เริ่มต้นได้ง่ายและเป็นระบบ เพียงจองคิวผ่าน LINE official หรือโทรศัพท์ ทีมงานจะส่งรายละเอียดการนัดหมายให้ท่าน

ก่อนเข้ารับการตรวจ เจ้าหน้าที่จะโทรคอนเฟิร์มเพื่อยืนยันนัด

จุดเด่นของ ORRA คือให้ความสำคัญกับข้อมูลตั้งแต่แรก เพื่อให้การตรวจมีความแม่นยำและตรงตามการใช้งานจริง

ขั้นตอนตรวจวัดสายตา: ORRA

เราใช้ ORRA Signature Fit™ — ระบบตรวจวัดสายตา ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สายตา ไลฟ์สไตล์ และปัญหาที่คุณเผชิญ เพื่อให้คุณได้แว่นที่…“ใช่ที่สุด…สำหรับคุณจริงๆ”

ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนตรวจสายตาทีมงานจะมีแบบสอบถามให้กรอกก่อนพบนักทัศนมาตร และหากท่านมีแว่นเดิม ทีมงานทำนำไปตรวจสอบก่อน

และเมื่อเข้าสู่ห้องตรวจ :

1.นักทัศนมาตรจะทำการซักประวัติ (Patient History)

การตัดแว่นสายตา และการใช้แว่น รวมไปถึงกิจกรรมหลักๆ ที่ใช้ประจำ เช่น ใช้คอมพิวเตอร์กี่ชั่วโมงต่อวัน ขับรถ หรือเล่นกีฬาหรือไม่ เพื่อประเมินปัญหาและความต้องการในการใช้แว่นเพราะข้อมูลทั้งหมดนี้มีความสำคัญในการตัดแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟให้มีประสิทธิภาพอย่างมาก

2. ตรวจสายตาเบื้องต้นด้วย Retinoscopy และ Automated refractometer

ทั้ง 2 เครื่องนี้ท่านที่เคยตัดแว่นมาก่อนน่าจะคุ้นๆ มาบ้างแล้ว เพราะเป็นเครื่องสำหรับตรวจสายตาเบื้องต้นก่อนจะเข้าสู้ขั้นตอนละเอียดนักทัศนมาตรจะตรวจเพื่อดูแนวโน้มของสายตาก่อนว่าไปในทางไหนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนละเอียด

3. ตรวจสายตาอย่างละเอียดด้วย

Digital phoropter

นักทัศนมาตรจะตรวจหาความผิดปกติของสายตา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความผิดปกติในการมองเห็น ด้วยเครื่อง Digital phoropter ที่มีความละเอียดสูงโดยมีขั้นตอนการตรวจดังนี้ :

• ตรวจความสามารถในการมองเห็นของตาแต่ละข้าง ทั้งระยะไกลและใกล้ (Visual Acuity)
• แยกแยะความผิดปกติของการมองเห็น ว่าเกิดจากปัญหาสายตาหรือสุขภาพตาด้วย Pinhole Test
• ตรวจหาค่าสายตาสั้น-สายตายาว-สายตาเอียงเบื้องต้นด้วย Digital phoropter by Topcon และ  Digital phoropter by Essilor
• ตรวจหาค่าสายตาสั้น-สายตายาว-สายตาเอียงอย่างละเอียด ด้วยกระบวนการ Subjective Refraction
• ตรวจหาค่าสายตายาวตามวัยในขณะมองใกล้ด้วย BCC (Addition)

ขั้นตอนทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟจริง

หลังจากได้ค่าการตรวจที่แม่นยำแล้ว จะเข้าสู่การ ทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟ ซึ่ง ORRA จะมีเลนส์โปรเกรสซีฟทุกแบรนด์จำลองการมองเห็นจริงตามค่าที่ตรวจได้ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ลองสัมผัสการมองเห็นในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งระยะใกล้และไกล เช่น อ่านหนังสือ ดูจอมือถือ หรือมองป้ายตัวอักษร

นักทัศนมาตรของ ORRA จะคอยสังเกตและสอบถาม หากพบอาการมึนตา หรือมองเบลอบางจุด ก็สามารถปรับค่าได้ทันที ขั้นตอนนี้ช่วยให้มั่นใจว่าเลนส์ที่เลือกจะตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหน้าคอม การขับรถ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง

ORRA ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเหล่านี้เสมอ เพราะเป้าหมายคือให้ลูกค้าสามารถใส่แว่นได้สบายตาและคมชัดตั้งแต่วันแรก

การเลือกกรอบแว่น

เมื่อได้เลนส์ที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ เลือกกรอบแว่น ซึ่งถือเป็นช่วงที่ทั้งสนุกและสะท้อนตัวตนของแต่ละคนมากที่สุด ที่ ORRA เรามีกรอบแว่นให้เลือกหลากหลาย ทั้งแนวแฟชั่นร่วมสมัย มินิมอลเบาน้ำหนัก ไปจนถึงแบรนด์พรีเมียมจากต่างประเทศ

Stylist ของ ORRA จะช่วยแนะนำกรอบที่เหมาะกับ รูปหน้าและโทนสีผิว (Personal Color) เพื่อให้กรอบแว่นช่วยเสริมบุคลิกได้อย่างกลมกลืน เช่น

• คนหน้ากลมเหมาะกับกรอบทรงเหลี่ยมหรือทรงรี เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า

• คนหน้าเรียวยาวเหมาะกับกรอบทรงกลม หรือกรอบที่มีดีเทลบริเวณขมับ เพื่อสร้างสมดุล

• คนโทนสีผิวเย็น (Winter / Summer) จะเหมาะกับกรอบโทนเงิน เทา หรือกรมท่า

• ส่วนคนโทนสีผิวอบอุ่น (Spring / Autumn) จะเหมาะกับกรอบสีทอง น้ำตาล หรือเขียวหม่น

นอกจากนี้ Stylist ยังแนะนำเรื่อง วัสดุของกรอบ เช่น ไทเทเนียม พลาสติก หรืออะซีเทต เพื่อให้คุณได้ทั้งความสวยงาม ความทนทาน และความสบายในการสวมใส่ตลอดวัน

เมื่อเลือกได้ครบแล้ว เจ้าหน้าที่จะสรุปราคาและเข้าสู่ขั้นตอน ชำระเงิน ซึ่งสามารถเลือกได้หลายช่องทาง ทั้งเงินสด บัตรเครดิต หรือโอนผ่านมือถือ

โดยระยะเวลาการผลิตขึ้นอยู่กับประเภทเลนส์ — หากเป็นเลนส์ทั่วไปใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ถ้าเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ หรือเลนส์เฉพาะทาง อาจใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ทุกคู่ของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด

ความพึงพอใจหลังรับแว่นจริง

หลังจากได้รับแว่นใหม่ ORRA จะมีบริการตรวจสอบความพอดีอีกครั้ง เช่น การปรับขาแว่น การเช็กตำแหน่งศูนย์กลางเลนส์ เพื่อให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติและสบายตาสุด ๆ

จากเสียงรีวิวของลูกค้าจริง หลายคนกล่าวว่า การตรวจสายตาที่ ORRA มีความละเอียดและใส่ใจมากกว่าที่เคยเจอ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริการ หลังใส่แว่นจริงรู้สึกว่ามองชัดขึ้น ไม่มีอาการเวียนหัวหรือเมื่อยตา ซึ่งเกิดจากการตรวจวัดที่ละเอียดในทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ ORRA ยังมี บริการหลังการขาย ที่ครอบคลุม เช่น การรับประกันเลนส์ การปรับกรอบฟรีภายในระยะเวลาที่กำหนด และคำแนะนำการดูแลรักษาแว่นในระยะยาว

สรุปประสบการณ์ตรวจสายตาที่ ORRA

จากทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า การตรวจสายตาที่ ORRA ไม่ใช่แค่การวัดตัวเลขแล้วนำไปตัดเลนส์ แต่คือกระบวนการที่ครบถ้วนทุกมิติ ตั้งแต่การเก็บข้อมูลส่วนตัว การตรวจวัดสายตาทั้งแบบอัตโนมัติและแมนนวล การทดลองเลนส์จริง การเลือกกรอบ ไปจนถึงบริการหลังการขาย

สิ่งที่ทำให้ ORRA โดดเด่น คือ ความละเอียด ความใส่ใจ และความเป็นมืออาชีพในทุกขั้นตอน ผลลัพธ์คือแว่นที่พอดี ใส่สบาย และมอบการมองเห็นที่ชัดเจนในทุกสถานการณ์

หากคุณกำลังลังเลว่าจะ “ตรวจสายตาที่ไหนดี” หรือมองหาสถานที่ที่ให้บริการอย่างครบวงจรและเชื่อถือได้ ORRA คือคำตอบที่ครบทั้งเทคโนโลยีและความใส่ใจในรายละเอียด เพราะการมองเห็นที่ดี เริ่มต้นจากการตรวจสายตาที่แม่นยำ