หลายคนที่เริ่มมีปัญหาการมองเห็น เช่น มองไกลไม่ชัด เห็นภาพเบลอ หรือรู้สึกปวดตาเวลาจ้องหน้าจอนานๆ มักเริ่มตั้งคำถามว่า “ควรไป ตรวจสายตาที่ไหนดี” เพราะในปัจจุบันมีคลินิกและร้านแว่นมากมายให้เลือก
แต่การ ตรวจวัดสายตา ที่ดี ไม่ได้มีแค่การส่องผ่านเครื่องมือแล้วจบ การตรวจที่ละเอียดและเป็นระบบ จะช่วยให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำ และได้เลนส์ที่เหมาะกับดวงตาของเราอย่างแท้จริง
ที่ ORRA การ ตรวจสายตา ถูกออกแบบให้ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสอบถามประวัติสุขภาพดวงตา ไปจนถึงการลองเลนส์จริงเพื่อปรับความสบายในการมองเห็น ซึ่งเหมาะกับทั้งมือใหม่และคนที่เคยตัดแว่นมาก่อน
บทความนี้จะพาไปรีวิวตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบ เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเหตุใดการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดจึงสำคัญ
ขั้นตอนตรวจสายตาอัตโนมัติทำอย่างไร
ขั้นตอนแรกของการ ตรวจสายตา ที่ ORRA คือ “การตรวจวัดสายตาอัตโนมัติ” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการประเมินค่าสายตาพื้นฐานก่อนเข้าสู่การตรวจโดยนักทัศนมาตร
เครื่องตรวจอัตโนมัติจะใช้หลักการสะท้อนของแสง (Autorefraction) เพื่อวัดค่ากำลังเลนส์ของดวงตาในระยะต่างๆ โดยไม่ต้องใช้เวลานาน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
โดยลูกค้าจะนั่งมองเข้าไปในเครื่อง จากนั้นเครื่องจะยิงลำแสงเข้าสู่ดวงตาและวัดการสะท้อนกลับมาเพื่อประมวลผลว่ามีค่าสายตาสั้น ยาว หรือเอียงมากน้อยเพียงใด
ขั้นตอนนี้เป็นการตรวจแบบเบื้องต้น และเป็นแนวทางให้ผู้ตรวจใช้ปรับค่าต่อในขั้นตอนถัดไป
หลายคนอาจสงสัยว่าการตรวจแบบอัตโนมัติสามารถแทนที่การตรวจโดยนักทัศนมาตรได้หรือไม่ คำตอบคือ “ไม่ทั้งหมด” เพราะเครื่องมือสามารถวัดค่าทางเทคนิคได้ แต่ไม่สามารถประเมินความรู้สึกสบายในการมองเห็นของแต่ละคนได้
ดังนั้นหลังจากตรวจสายตาอัตโนมัติแล้ว จึงต้องเข้าสู่ขั้นตอนการ ตรวจวัดสายตา แบบละเอียดโดยนักทัศนมาตรของ ORRA เพื่อปรับให้เหมาะกับสายตาจริงของแต่ละบุคคล
รีวิวประสบการณ์จริง ตรวจสายตาใช้เวลานานแค่ไหน
คำถามยอดฮิตที่หลายคนมักถามคือ “การตรวจสายตาใช้เวลานานไหม” สำหรับที่ ORRA ขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที โดยขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของค่าสายตาแต่ละคน หากมีสายตาเอียง มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อตา มีโรคทางตา หรือเคยทำเลสิกมาก่อน อาจต้องใช้เวลาเพิ่มเล็กน้อยเพื่อความแม่นยำสูงสุด
จากประสบการณ์จริงของผู้ที่มา ตรวจสายตา พบว่าบรรยากาศที่ ORRA ค่อนข้างเป็นกันเอง พนักงานให้คำแนะนำละเอียด และอธิบายทุกขั้นตอนก่อนเริ่มตรวจ ทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกสบายใจและมั่นใจในผลลัพธ์
การตรวจจะเริ่มจากการซักประวัติและพฤติกรรมแล้วต่อด้วยการทดสอบการมองเห็นระยะไกล–ใกล้ เพื่อประเมินว่าตาแต่ละข้างทำงานสมดุลหรือไม่ ในระหว่างตรวจ นักทัศนมาตรจะปรับเลนส์ให้ผู้ตรวจลองมองป้ายตัวอักษร และสอบถามความรู้สึกว่าชัดหรือสบายกว่ากันในแต่ละค่า เพื่อหาค่าที่เหมาะสมที่สุด
เมื่อได้ค่าสายตาที่แม่นยำแล้ว จึงเข้าสู่การทดสอบการมองเห็นในชีวิตจริง เพื่อจำลองการใช้งานก่อนตัดเลนส์จริง จากขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าการ ตรวจวัดสายตา ไม่ใช่เรื่องรีบเร่ง เพราะความละเอียดคือหัวใจสำคัญในการได้เลนส์ที่ตอบโจทย์และป้องกันปัญหาสายตาในระยะยาว
เครื่องมือทันสมัยที่ ORRA ใช้ตรวจมีอะไรบ้าง
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ ORRA ได้รับความนิยมคือการใช้เครื่องมือทันสมัยที่มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้การ ตรวจสายตา มีความแม่นยำสูงและรวดเร็ว โดยเครื่องมือที่ใช้จะถูกตรวจสอบและปรับเทียบค่าทุกระยะ เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้องทุกครั้งที่ตรวจ เครื่องมือหลักๆ ที่ ORRA ใช้ เช่น
VR800 by Essilor
สำหรับตรวจสายตาอย่างละเอียด รวมไปถึงตรวจความสมดุลของตาทั้งสองข้างและการเคลื่อนไหวของตา โดยเครื่องตรวจนี้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งละเอียดถึง 0.01D
DNEye Scanner by Rodenstock German
ใช้สำหรับวิเคราะห์โครงสร้างตา ตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น เพื่อหาสาเหตุของการเกิดความผิดปกติในการมองเห็น และตรวจวัดความดันตา
VISUFIT1000 by Zeiss
ใช้สำหรับวัดค่าพารามิเตอร์ ซึ่งสำคัญมากในเลนส์โปรเกรสซีฟ และยังจำลองการใส่แว่นเพื่อการเลือกแว่นแบบไม่ต้องสัมผัส
Impressionist by Rodenstock
ใช้สำหรับวัดค่าพารามิเตอร์ ซึ่งสำคัญมากในเลนส์โปรเกรสซีฟ
Digital phoropter by Topcon Japan
สำหรับตรวจสายตาอย่างละเอียด รวมไปถึงตรวจความสมดุลของตาทั้งสองข้างและการเคลื่อนไหวของตา
Trueview i by HOYA
ใช้สำหรับวัดค่าพารามิเตอร์ ซึ่งสำคัญมากในเลนส์โปรเกรสซีฟ โดยสามารถสั่งเลนส์รุ่น TOP ของ HOYA ได้
OCULUS Universal Trial Frame UB 4
สำหรับใส่เลนส์เพื่อทดลองใช้งานจริง รุ่นนี้จะสามารถปรับค่าพารามิเตอร์ได้ เหมาะสำหรับใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ
Trial Progressive lens
เรามีเลนส์โปรเกรสซีฟให้ทดลองทุกยี่ห้อทุกรุ่น ทุกค่าสายตาจริง
การมีเครื่องมือที่ครบครันและทันสมัยช่วยให้การตรวจวัดสายตาแม่นยำและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการตัดแว่นใหม่หรือสงสัยว่ามีปัญหาสายตา ควรเลือกสถานที่ที่มีอุปกรณ์ครบและผู้ตรวจมีความเชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาแว่นไม่พอดีหรือปวดตาหลังใช้งาน
ตรวจวัดสายตาเสร็จแล้ว ทำไมต้องลองเลนส์จริงซ้ำ
เมื่อจบขั้นตอนการ ตรวจวัดสายตา อย่างละเอียดแล้ว หลายคนอาจคิดว่าจบแล้วสามารถตัดเลนส์ได้เลย แต่ที่ ORRA จะมีอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ คือ “การลองเลนส์โปรเกรสซีฟจริง” เพื่อให้แน่ใจว่าค่าที่วัดได้ตรงกับความสบายในการใช้งานจริง
การลองเลนส์จริงจะช่วยจำลองการมองเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การอ่านหนังสือ หรือมองหน้าจอคอมพิวเตอร์
โดยลูกค้าจะได้ทดลองใส่เลนส์ที่มีค่าตามผลตรวจ เพื่อดูว่าชัดเจนและรู้สึกสบายตาหรือไม่ หากรู้สึกเวียนหัวหรือมองภาพเบี้ยว นักทัศนมาตรจะปรับค่าเล็กน้อยจนกว่าจะได้เลนส์ที่เหมาะสมที่สุด
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะบางครั้งแม้ค่าที่วัดจากเครื่องจะถูกต้อง แต่เมื่อใช้งานจริง อาจไม่สบายตาเนื่องจากความไวของระบบประสาทตา หรือความแตกต่างของการรับภาพระหว่างตาซ้าย–ขวา ORRA จึงให้ความสำคัญกับการลองเลนส์ซ้ำ เพื่อให้แว่นที่ได้ตอบโจทย์ทั้งความชัดและความสบายในระยะยาว
การลองเลนส์จริงยังช่วยให้ลูกค้าเข้าใจความแตกต่างระหว่างเลนส์แต่ละประเภท เช่น เลนส์ชั้นเดียว เลนส์โปรเกรสซีฟ หรือเลนส์กันแสงสีฟ้า ซึ่งทีมงานจะให้คำแนะนำว่าประเภทไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด ก่อนตัดสินใจตัดแว่น
สรุป
หากคุณกำลังหาคำตอบของคำถามว่า ตรวจสายตาที่ไหนดี หรือ ตัดแว่นที่ไหนดี คำตอบอาจอยู่ที่คุณภาพของการตรวจและความเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ORRA ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด ตั้งแต่เครื่องมือที่ทันสมัย การบริการที่อบอุ่น ไปจนถึงการลองเลนส์จริงก่อนตัด
การตรวจสายตาไม่ใช่แค่เพื่อให้มองเห็นชัดขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาสายตาในอนาคต เช่น ตาล้า ตาแห้ง หรือปวดศีรษะจากการเพ่งมองนานเกินไป การตรวจวัดสายตาอย่างถูกต้องและต่อเนื่องทุก 6–12 เดือน จะช่วยให้คุณรักษาคุณภาพการมองเห็นได้ดีที่สุด
สุดท้าย หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นตรวจสายตาที่ไหนดี ORRA คือคำตอบที่ครบทั้งเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญ และความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์การตรวจวัดสายตาแบบมืออาชีพที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำ และช่วยให้คุณได้แว่นที่ใส่แล้วสบายตาที่สุดในทุกวัน
เพราะสายตาแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน
ORRA จึงใช้ประสบการณ์กว่า 10 ปี
พัฒนา ORRA Signature Fit™
ระบบตรวจวัดสายตา ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สายตา ไลฟ์สไตล์ และปัญหาที่คุณเผชิญ!
เพื่อให้คุณได้แว่นที่… “ใช่ที่สุด…สำหรับคุณจริงๆ”
เยี่ยมชมสาขาของเรา:
สาขารามคำแหง : CHIC HOME OFFICE Ram53
สาขาพระราม 6 : TIPCO TOWER ชั้น 5
สาขาประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ : THE COMMERCE
เปิดให้บริการ : ทุกวันเวลา 11.00-20.00น.
Call Center : 062-651-2365
