เมื่อ “สายตาเปลี่ยน” หลายคนอาจยังไม่รู้ตัว จนเริ่มมี อาการ แปลก ๆ เช่น มองไม่ชัด เวียนหัว หรือปวดตา อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนจากดวงตาของคุณเองว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สายตา และใส่ใจสุขภาพตาให้มากขึ้นแล้ว
สารบัญ
- สายตาเปลี่ยน อาการ ที่ควรรู้
- สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงทางสายตา
- 7 พฤติกรรมการใช้สายตา ที่ควรสังเกต
- การแก้ไขปัญหาเมื่อสายตาเปลี่ยน
- สรุป: ดูแลสายตาอย่างไรเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
สายตาเปลี่ยน อาการ ที่ควรรู้
การเปลี่ยนแปลงของสายตาไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัย 40+ ที่เริ่มมีปัญหามองใกล้ไม่ชัด หรือเปลี่ยนระยะโฟกัสได้ช้าลง
อาการสายตาเปลี่ยนมักเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น มองจอแล้วปวดตา ใช้มือถือแล้วล้า หรือขับรถกลางคืนแล้วไม่สบายตา สิ่งเหล่านี้คือ “สัญญาณเงียบ” ที่ต้องใส่ใจ

สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงทางสายตา
การเปลี่ยนแปลงของสายตาอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือมีพฤติกรรมที่กระทบต่อสุขภาพดวงตา ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยมีดังนี้:
1. อายุที่เพิ่มขึ้น เกิดสายตายาวตามอายุ (Presbyopia)
เมื่อเข้าสู่วัย 40 ปีขึ้นไป กล้ามเนื้อตาและเลนส์ตาธรรมชาติจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้มองใกล้ไม่ชัด หรือเปลี่ยนระยะโฟกัสช้าลง
2. ใช้สายตาเพ่งนานเกินไป
การจ้องหน้าจอ คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือการอ่านหนังสือเป็นเวลานานโดยไม่พักสายตา อาจทำให้กล้ามเนื้อตาล้าและส่งผลต่อคุณภาพการมองเห็น
3. สภาพแสงไม่เหมาะสม
การทำงานในที่แสงจ้าเกินไปหรือมืดเกินไป เป็นปัจจัยเร่งให้สายตาเสื่อมเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
4. ค่าสายตาเปลี่ยน แต่ไม่ได้เปลี่ยนแว่น
การใส่แว่นเดิม ทั้งที่ค่าสายตาเปลี่ยนไปแล้ว อาจทำให้เกิดอาการปวดตา เวียนหัว หรือเพ่งจนรู้สึกไม่สบายตาเรื้อรัง
5. ไม่เคยตรวจสายตาแบบละเอียด
หลายคนไม่เคยตรวจวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สายตา ทั้งที่ปัญหาที่แท้จริงอาจไม่ได้อยู่ที่ค่าสายตาเพียงอย่างเดียว

7 พฤติกรรมการใช้สายตา ที่ควรสังเกต
คุณอาจไม่รู้ตัวว่า “สายตาเปลี่ยนไปแล้ว” แต่พฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันอาจเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ ลองสังเกตดูว่า คุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีอาการแบบนี้หรือยัง:
- หยิบแว่นเข้า–ออกบ่อยขึ้น
- อ่านหนังสือแล้วขยับแว่นตลอด
- อ่านข้อความสั้นได้ แต่อ่านอะไรยาว ๆ ไม่ไหว
- ขับรถแล้วต้องเพ่ง หรือหลีกเลี่ยงขับตอนแสงน้อย
- เริ่มไม่อยากอ่านหนังสือหรือดูเมนูอาหารในร้านมืด
- เริ่มบ่นว่า ปวดตา ปวดหัว เวลาใช้สายตานาน
- คิ้วชนกันบ่อย ๆ เหมือนกำลังพยายามเพ่ง
หากสังเกตเห็น 2–3 ข้อขึ้นไป อาจถึงเวลาแล้วที่ควรตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดและเลือกแว่นใหม่ที่เหมาะสม
แนวทางแก้ไขปัญหาสายตาเปลี่ยน
เมื่อเริ่มมีอาการสายตาเปลี่ยน สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่ามองข้ามสัญญาณเตือน เพราะการปล่อยให้ฝืนใช้งานสายตาไปเรื่อย ๆ อาจส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพดวงตาและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
1. ตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด
ไม่ใช่แค่การเช็กค่าสายตาเบื้องต้น แต่ควรตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สายตา ไลฟ์สไตล์ และปัญหาที่คุณเผชิญจริง ๆ
เช่น ORRA Signature Fit™ ระบบตรวจวัดสายตาที่เจาะลึกทั้งการมองเห็น พฤติกรรมการใช้สายตา และให้คุณได้ทดลองเลนส์จริงก่อนตัด เพื่อให้ได้แว่นที่ “ใช่ที่สุดสำหรับคุณจริง ๆ”
2. เลือกแว่นตาที่ตอบโจทย์การใช้งาน
แว่นตาที่ดีไม่ใช่แค่ใส่แล้วชัด แต่ต้อง สบายตา และ รองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตจริง เช่น ผู้ที่ทำงานหน้าจอทั้งวัน หรือคนที่ต้องขับรถตอนกลางคืน
สำหรับผู้ที่มีปัญหามองใกล้–ไกลพร้อมกัน อาจเหมาะกับ เลนส์โปรเกรสซีฟ ซึ่งช่วยให้มองได้ทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ปรับพฤติกรรมการใช้สายตา
-
พักสายตาทุก 20 นาที โดยมองไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที (กฎ 20–20–20)
-
ใช้แสงสว่างที่เพียงพอขณะอ่านหนังสือหรือทำงาน
-
หลีกเลี่ยงการจ้องจอนานเกินไปโดยไม่พัก

สรุป: ดูแลสายตาอย่างไรเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงของสายตามักเกิดจากอายุ พฤติกรรมการเพ่งนาน และไม่เคยตรวจสายตาอย่างละเอียด
สัญญาณเตือน เช่น อ่านอะไรยาว ๆ ไม่ไหว ปวดตา เวียนหัว หรือคิ้วชนกันตอนเพ่ง
หากมี 2–3 อาการร่วมกัน ควรตรวจวัดสายตาใหม่โดยผู้เชี่ยวชาญหรือนักทัศนมาตรทันที
และที่สำคัญควรเลือกแว่นที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้สายตา ไม่ใช่แค่ค่าสายตา
และอย่าลืมพักสายตา ใช้แสงให้เหมาะสม เพื่อถนอมดวงตาในระยะยาว
เพราะสายตาแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน
ORRA จึงใช้ประสบการณ์กว่า 10 ปี
พัฒนา ORRA Signature Fit™
ระบบตรวจวัดสายตา ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สายตา ไลฟ์สไตล์ และปัญหาที่คุณเผชิญ!
เพื่อให้คุณได้แว่นที่... “ใช่ที่สุด...สำหรับคุณจริงๆ”
เยี่ยมชมสาขาของเรา:
สาขารามคำแหง : CHIC HOME OFFICE Ram53
สาขาพระราม 6 : TIPCO TOWER ชั้น 5
สาขาประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ : THE COMMERCE
เปิดให้บริการ : ทุกวันเวลา 11.00-20.00น.