อาการมองเห็นภาพซ้อน ภาพเบลอ ไม่คมชัด โดยเฉพาะในเวลากลางคืน กำลังกวนใจใครหลายคนอยู่หรือเปล่า? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ “สายตาเอียง” (Astigmatism) ซึ่งสร้างความรำคาญและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่น้อย หลายคนอาจไม่มั่นใจว่าจะเช็กได้อย่างไรว่าตัวเองมีภาวะสายตาเอียงหรือไม่ วันนี้ ORRA Progressive Lens Center จะมาอธิบายวิธีทดสอบสายตาเอียงด้วยตัวเองแบบง่ายๆ พร้อมทั้งให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาวะสายตาเอียงกัน
- สายตาเอียงคืออะไร? เกิดจากสาเหตุใด
- ความแตกต่างระหว่างตาปกติและสายตาเอียง
- เช็กลิสต์ 5 อาการสำคัญที่บอกว่าคุณอาจมีสายตาเอียง
- วิธีทดสอบสายตาเอียงด้วยตัวเองผ่าน Astigmatism Chart
- วิธีอ่านผลทดสอบสายตาเอียงเบื้องต้น
- เมื่อไหร่ที่ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด
- แนวทางการรักษาและแก้ไขปัญหาสายตาเอียง
- สรุปบทความ
สายตาเอียงคืออะไร? เกิดจากสาเหตุใด
สายตาเอียง (Astigmatism) คือภาวะผิดปกติทางสายตาชนิดหนึ่งที่เกิดจากความโค้งของกระจกตา (Cornea) หรือเลนส์ตา (Lens) มีรูปร่างไม่สมมาตร จากปกติที่ควรจะมีความโค้งมนเหมือนทรงกลม แต่กลับมีความโค้งคล้ายทรงรักบี้หรือไข่ไก่ ทำให้แสงที่เข้ามาในดวงตาไม่สามารถรวมเป็นจุดโฟกัสเดียวบนจอประสาทตา (Retina) ได้ ส่งผลให้มองเห็นภาพไม่ชัดเจน มีลักษณะเบลอหรือซ้อนกันได้ทั้งในระยะใกล้และไกล
ความแตกต่างระหว่างตาปกติและสายตาเอียง
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างดวงตาปกติและดวงตาที่มีภาวะสายตาเอียงคือเรื่องของ “จุดโฟกัสของแสง” ในดวงตาปกติที่มีความโค้งของกระจกตาและเลนส์ตาที่สมบูรณ์ แสงจะถูกหักเหและรวมกันเป็นจุดโฟกัสเพียงจุดเดียวบนจอประสาทตา ทำให้มองเห็นภาพได้คมชัด ในขณะที่ดวงตาที่มีสายตาเอียง ความโค้งที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้แสงถูกหักเหไปคนละทิศทาง เกิดเป็นจุดโฟกัสหลายจุด ทำให้ภาพที่เห็นนั้นเบลอ มัว หรือมีเงาซ้อน
สรุปความแตกต่าง
- ดวงตาปกติ กระจกตามีความโค้งมนสมมาตร แสงรวมเป็นจุดโฟกัสเดียวบนจอประสาทตา ทำให้ภาพคมชัด
- ดวงตาที่มีสายตาเอียง กระจกตามีความโค้งไม่สม่ำเสมอ (คล้ายทรงรักบี้) แสงกระจายและเกิดจุดโฟกัสหลายจุด ทำให้ภาพที่มองเห็นเบลอหรือซ้อนกัน
เช็กลิสต์ 5 อาการสำคัญที่บอกว่าคุณอาจมีสายตาเอียง
หากคุณไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่ใช่สายตาเอียงหรือไม่ ลองมาเช็กกันดูว่าคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยแค่ไหน ซึ่งเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจบ่งบอกถึงภาวะสายตาเอียงได้
- มองเห็นภาพเบลอหรือผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นการมองระยะใกล้หรือไกล วัตถุที่เห็นจะขาดความคมชัด มีลักษณะเบลอ หรือดูยืดออกผิดสัดส่วนไปจากความเป็นจริง
- เห็นภาพซ้อน โดยเฉพาะวัตถุที่มีแสงสว่าง เช่น ดวงไฟหน้ารถยนต์ในเวลากลางคืน อาจเห็นเป็นแสงฟุ้งกระจาย แตกเป็นแฉก หรือเห็นเป็นเงาซ้อนขึ้นมา
- ต้องหยีตาหรือเพ่งมองบ่อยๆ เป็นความพยายามของร่างกายที่จะปรับโฟกัสภาพให้ชัดเจนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อต้องใช้สายตาจ้องมองอะไรเป็นเวลานานๆ
- ปวดศีรษะและเมื่อยล้าดวงตา อาการปวดมักจะเกิดขึ้นบริเวณขมับหรือหน้าผาก หลังจากที่ต้องใช้สายตาอย่างหนัก เนื่องจากกล้ามเนื้อตาทำงานหนักเกินไปในการพยายามปรับโฟกัส
- มีปัญหาในการมองเห็นตอนกลางคืน ความสามารถในการมองเห็นในที่แสงน้อยลดลงอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกว่าการขับรถตอนกลางคืนทำได้ยากลำบากกว่าปกติ เพราะแสงไฟฟุ้งกระจาย
วิธีทดสอบสายตาเอียงด้วยตัวเองผ่าน Astigmatism Chart
การทดสอบสายตาเอียงเบื้องต้นสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านโดยใช้แผนภูมิที่เรียกว่า Astigmatism Chart ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้สังเกตความผิดปกติในการมองเห็นที่อาจเกิดจากสายตาเอียง
อุปกรณ์และสภาพแวดล้อมที่ต้องเตรียม
- Astigmatism Chart สามารถค้นหารูปภาพและพรินต์ลงบนกระดาษ หรือเปิดภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์/แท็บเล็ตก็ได้
- สถานที่ เลือกห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอและสม่ำเสมอ ไม่มืดหรือจ้าจนเกินไป
- ระยะห่าง เตรียมพื้นที่ให้สามารถยืนหรือนั่งห่างจากแผนภูมิประมาณ 1-2 เมตร
ขั้นตอนการทดสอบสายตาเอียง
การทดสอบสายตาเอียงด้วยตัวเองมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพื่อผลลัพธ์เบื้องต้นที่แม่นยำที่สุด ควรทำตามขั้นตอนดังนี้ และอย่าลืมถอดแว่นหรือคอนแทคเลนส์ออกก่อนทำการทดสอบ
- เริ่มต้นทดสอบทีละข้าง ใช้มือปิดตาข้างหนึ่งไว้ก่อน (เช่น ปิดตาซ้ายเพื่อทดสอบตาขวา)
- จ้องมองที่จุดกึ่งกลาง เพ่งสายตาไปที่จุดตรงกลางของแผนภูมิทดสอบ
- สังเกตเส้นทั้งหมด ขณะที่ยังคงมองที่จุดกึ่งกลาง ให้สังเกตเส้นสีดำทั้งหมดที่แผ่ออกมาเป็นรัศมีรอบจุดนั้น
- ประเมินความคมชัด ดูว่าเส้นทั้งหมดมีความหนา ความเข้ม และความคมชัดเท่ากันหรือไม่
- สลับข้างทดสอบ: ทำซ้ำขั้นตอนเดิมกับตาอีกข้างหนึ่ง
วิธีอ่านผลทดสอบสายตาเอียงเบื้องต้น
หลังจากทำการทดสอบแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยบ่งชี้เบื้องต้นได้ว่าคุณอาจมีภาวะสายตาเอียงหรือไม่ ซึ่งสามารถแบ่งการอ่านผลได้ดังนี้
ลักษณะผลแบบปกติ
หากคุณมองเห็นเส้นทั้งหมดบนแผนภูมิมีความคมชัด ความเข้ม และความหนาที่สม่ำเสมอเท่ากันทุกเส้น ไม่มีความแตกต่างกัน แสดงว่าแนวโน้มที่คุณจะมีสายตาเอียงนั้นน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีเลย
ลักษณะผลที่อาจบ่งชี้ภาวะสายตาเอียง
หากคุณสังเกตเห็นว่าเส้นบางเส้น หรือบางกลุ่มของเส้น มีลักษณะเบลอ ไม่คมชัด หรือดูมีสีเทา ในขณะที่เส้นกลุ่มอื่นยังคงดำสนิทและคมชัดอยู่ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคุณอาจมีภาวะสายตาเอียง
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด
การทดสอบสายตาเอียงด้วยตัวเองเป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น หากผลการทดสอบบ่งชี้ว่าคุณอาจมีสายตาเอียง หรือคุณมีอาการต่างๆ ตามเช็กลิสต์ 5 ข้อข้างต้นที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรหาเวลาไปพบจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรเพื่อทำการตรวจสายตาอย่างละเอียดและแม่นยำ เพราะการตรวจกับผู้เชี่ยวชาญจะสามารถระบุค่าสายตาเอียง องศา และให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้ หากกำลังมองหาว่าจะวัดสายตาที่ไหนดีควรเลือกร้านที่มีนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย
แนวทางการรักษาและแก้ไขปัญหาสายตาเอียง
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาเอียง แนวทางการแก้ไขที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพที่สุดคือการใช้แว่นสายตา โดยเลนส์แว่นตาจะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อชดเชยความโค้งที่ผิดปกติของกระจกตา ทำให้แสงสามารถรวมตัวเป็นจุดโฟกัสเดียวบนจอประสาทตาได้พอดี ช่วยให้กลับมามองเห็นภาพได้คมชัดอีกครั้ง สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยร่วมด้วย เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง เพราะสามารถแก้ไขทั้งปัญหาสายตาเอียงและสายตายาวได้ในแว่นอันเดียว ทำให้มองชัดทุกระยะอย่างไร้รอยต่อ
สรุปบทความ
สายตาเอียงเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและส่งผลต่อคุณภาพการมองเห็น การทำความเข้าใจอาการและวิธีทดสอบสายตาเอียงเบื้องต้นด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณสามารถสังเกตความผิดปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุดจำเป็นต้องมาจากการตรวจสายตาโดยผู้เชี่ยวชาญ หากคุณกำลังมองหาร้านตัดแว่นใกล้ฉันที่เชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟ ORRA Progressive Lens Center พร้อมให้บริการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและดูแลโดยนักทัศนมาตรผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้คุณได้แว่นตาที่เหมาะสมและคืนความคมชัดให้กับการมองเห็นของคุณอย่างดีที่สุด