ตาแห้ง เพราะใช้สายตามาก มีวิธีการรักษาและป้องกันอย่างไรบ้าง?

ตาแห้ง

เมื่อเราใช้สายตามากเกินไปในแต่ละวัน บางครั้งมักเกิดอาการต่าง ๆ ตามมา เช่น ตาแห้ง ตามัว หรือแม้กระทั่งอาการปวดตา

และเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ก็จะทำให้เราเกิดความไม่สะดวกสบายในการใช้ชีวิตหรือความกังวลว่าจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับดวงตาตามมาในอนาคตได้

 บทความนี้ ORRA จะพามารู้จักกับอาการตาแห้ง ที่หลายคนมักเป็นกันเมื่อต้องใช้สายตาหนัก ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง

และมีบางกรณีที่เกิดความผิดปติของดวงตา ว่าอาการนี้ คืออะไร มีสาเหตุจากอะไร มีผลกระทบอย่างไร มีวิธีการป้องกันและดูแลรักษาอย่างไรบ้าง

รวมถึงข้อควรระวังในการเลือกใช้น้ำตาเทียมอีกด้วยดังนี้

ตาแห้ง คืออะไร?

อาการตาแห้ง เป็นสภาวะที่ดวงตามีความชุ่มชื่นน้อยกว่าปกติ โดยอาการตาแห้งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น 

  • คันตา 
  • แสบตา 
  • ระคายเคืองตา
  • แพ้แสง หรือแพ้ลม
  • บริเวณตาขาวมีสีแดงจากการอักเสบ ขอบเปลือกตาแดง
  • ตามัวชั่วขณะ เป็นต้น
อาการตาแห้ง

สาเหตุของอาการตาแห้ง

คืออะไร?

สาเหตุของอาการตาแห้ง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือความผิดปกติบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา ดังนี้

  • กระพริบตาน้อยจนไปทำให้ดวงตาต้องเผชิญกับอากาศเป็นเวลานานจนทำให้มีการระเหยมากจนเกินไป
  • การใช้สายตาหนักเกินไป จากการเพ่งเป็นเวลานาน ๆ สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ หรือการใช้คอมพิวเตอร์ 
  • ระบบต่อมน้ำตาที่ทำหน้าที่สร้างน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป
  • คุณภาพของน้ำตาลดลงเนื่องจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
  • การใส่คอนแทคเลนส์เป็นระยะเวลานาน ๆ
  • การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า และยาลดความดันโลหิตบางชนิด

ผลกระทบของ

อาการตาแห้ง

สำหรับผลกระทบของอาการตาแห้งนั้น สามารถส่งผลกระทบได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในระยะสั้นอาจทำให้เกิดความไม่สบายตาหรืออาการต่าง ๆ เช่น ตามัวชั่วขณะ ปวดตา ระคายเคืองตา

โดยอาการเหล่านี้สามารถหายได้จากการพักสายตาและการใช้น้ำตาเทียม แต่หากมีการปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจก่อให้เกิดโรคทางตาหรือการบาดเจ็บของดวงตาที่มีความรุนแรงขึ้นได้ เช่น จอประสาทตาอักเสบ เปลือกตาอักเสบ เป็นต้น

อาการตาแห้ง สาเหตุ

 วิธีการป้องกัน

อาการตาแห้ง

หากเราเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ต้องการให้เกิดอาการตาแห้ง เราสามารถป้องกันได้ด้วยหลากหลายวิธีการ เช่น

  • พักสายตาเป็นระยะเมื่อต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งอาจพักทุก ๆ 50 นาที เป็นระยะเวลา 5 – 10 นาที เป็นต้น 
  • เมื่อต้องเพ่งอะไรนาน ๆ ควรกระพริบตาเป็นประจำ และควรหลีกเลี่ยงไม่เพ่งมองอะไรนานเกินไปจนทำให้รู้สึกตาแห้งได้
  • สวมแว่นตากรองแสงสีฟ้าหรือแว่นกันแดดเมื่อต้องเผชิญกับแสงเหล่านี้เป็นเวลานาน

วิธีการรักษา

อาการตาแห้ง

สำหรับกรณีที่มีอาการตาแห้งอยู่และอยากให้หายจากอาการตาแห้ง ก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น 

  • หยอดน้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับดวงตา
  • ยากระตุ้นทำให้เกิดน้ำตาเพื่อเพิ่มการสร้างน้ำตา
  • ยาลดการอักเสบของเปลือกตา
  • ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวเยื่อบุตา และช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตา 
  • ทำความสะอาดเปลือกตาและประคบอุ่น
  • Autologus Serum ช่วยรักษาอาการตาแห้งชนิดรุนแรง ลดการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อที่ตา
  • การอุดท่อระบายน้ำตา (Punctual Plug) สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งบ่อยครั้งและรุนแรง
อาการตาแห้ง รักษา

ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

เพื่อรักษาอาการตาแห้ง

การใช้น้ำตาเทียมเป็นวิธีการแรก ๆ สำหรับการรักษาที่หลายคนมักนึกถึง หากไม่รวมกับการพักสายตาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

โดยน้ำตาเทียมก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ มีสารกันเสีย และไม่มีสารกันเสีย ซึ่งจะต้องใช้ให้ตรงต่ออาการถูกต้องตามลักษณะการใช้งาน ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อดวงตาในระยะยาวได้

  • น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสีย มักเป็นขวดที่มีปริมาณมากพอสำหรับใช้หลายครั้งที่ไม่เกิน 1 เดือน โดยควรใช้ไม่เกินวันละ 4 ครั้ง อาจแบ่งเป็นเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน เหมาะกับอาการตาแห้งไม่รุนแรง เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้เป็นบางช่วงไม่ได้ใช้ทุกวันหรือติดกันเป็นเวลานาน
  • น้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันเสีย มักเป็นหลอดที่มีขนาดเล็ก สำหรับใช้เพียงไม่เกิน 1 วัน เมื่อเปิดแล้วมีอายุการใช้งาน 24 ชั่วโมง โดยสามารถใช้บ่อยได้ตามความต้องการ เมื่อมีอาการหรือในทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง เหมาะกับผู้ที่ตาแห้งรุนแรง       

บทสรุป : 

ดวงตาของเราเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เราจึงต้องดูแลและรักษาเป็นอย่างดี

โดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่เรามีการใช้สายตากันมากขึ้น จากการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน

สิ่งสำคัญคือการหาวิธีการดูแลรักษาที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของตนเองมากที่สุด เพื่อสุขภาพของดวงตาที่ดีอยู่เสมอ

หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการรับคำปรึกษา มาหาเราที่ ORRA ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 – 20:00น. ทักเราที่นี่ค่ะ LINE:@orra-od