ใครกำลังวางแผนลดหย่อนภาษีอยู่ฟังทางนี้ รัฐบาลได้อนุมัติ Easy E-Receipt 2.0 หรือ E-Tax 2568 นี้ สามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายหมวด รวมถึงแว่นสายตาด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเงื่อนไขของ Easy E-Receipt 2.0 มากขึ้น วันนี้ ORRA Progressive Lens Center จะมาอธิบายมาตรการลดหย่อนให้ทุกคนเข้าใจกันแบบคร่าว ๆ พร้อมแนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟในงบ 30,000 บาท พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม ได้ทั้งสายตาได้ทั้งลดหย่อนภาษี ใครกำลังคิดอยู่ว่าจะตัดแว่นที่ไหนดีถึงจะคุ้มในช่วงนี้ ติดตามได้ในบทความนี้เลย
Table of Contents
- Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร
- สิทธิประโยชน์ของ Easy E-Receipt 2.0
- ตัวเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟในงบ 30,000 บาท
- โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะที่ ORRA เท่านั้น
- ตัดแว่นโปรเกรสซีฟลดหย่อนภาษี e-Tax 2568
Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร
Easy E-Receipt 2.0 หรือ E-Tax 2568 คือ มาตรการลดหย่อนภาษีหมวดพิเศษจากภาครัฐ จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยที่ผู้บริโภคจะได้รับทั้งสินค้าต้องการและสามารถนำยอดซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ นำไปหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมตามจำนวนจริงที่จ่าย สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นสินค้าและบริการที่สามารถออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ประเภท e-Tax Invoice หรือ e-Receipt จากระบบของกรมสรรพากรเท่านั้น สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้เท่านั้น
สิทธิประโยชน์ของ Easy E-Receipt 2.0
สิทธิประโยชน์ของ Easy E-Receipt 2.0 คือ สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ซึ่งจะต้องเป็นใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) จากระบบของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยทางร้านค้าจะส่งให้ทางอีเมลของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
วงเงินลดหย่อน 50,000 บาท แบ่งออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
- วงเงินส่วนแรก 30,000 บาท : สำหรับสินค้าและบริการทั่วไปที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูปแบบ หรือ e-Tax Invoice หากเป็นผู้ประกอบการที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมีใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Receipt เป็นหลักฐาน
- วงเงินส่วนที่สอง 20,000 บาท : สำหรับสินค้าและบริการจาก OTOP วิสาหกิจชุมชน หรือวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยจะต้องมีใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐานยืนยัน
ตัวเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟในงบ 30,000 บาท
หากคุณกำลังมองหาเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพสูงจากร้านแว่นตา e-Tax ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในงบประมาณ 30,000 บาท ORRA ได้รวบรวมตัวเลือกเลนส์พร้อมกรอบแว่นที่จะช่วยเสริมฟังก์ชันและสไตล์ของคุณ ตัวเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟในงบ 30,000 บาท มีดังนี้ค่ะ
1. Essilor Varilux XR series index 1.5
ราคา: 26,600.- (ราคาปกติ 34,500.-)
เป็นรุ่นท็อปของ Essilor ในปัจจุบัน โดยรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ในด้านการมองเห็นอย่างคมชัดและสมดุล พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในตลาด ซึ่งช่วยลดปัญหาการบิดเบือนของภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเต็มรูปแบบ
เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่เคยใส่เลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อนและมองหาประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม
- ผู้ที่มีปัญหาในการปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นทั่วไป
- ผู้ที่ใช้สายตาหนักในทุกระยะ ทั้งใกล้-กลาง-ไกล
2. Hoya iD Lifestyle 4 index 1.5 (Free Sensity2)
ราคา: 25,400.- (ราคาปกติ 42,000.-)
รุ่นนี้เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพสูงที่ขายดีของ Hoya ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและออกแบบมาเพื่อการมองเห็นที่สบายในทุกสถานการณ์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเลนส์ที่ใช้งานได้อย่างครอบคลุมและปรับตัวง่าย
เหตุผลที่ควรเลือก Hoya iD Lifestyle 4
- รุ่นนี้ถือเป็น “รุ่นขายดีของ Hoya” เนื่องจากคุณภาพการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมและเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกความต้องการ
- โปรโมชันพิเศษ! ช่วงนี้มีโปรโมชั่น ฟรี! เคลือบเลนส์เปลี่ยนสี (Sensity) ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งานกลางแจ้ง โดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่น
3. Nikon SeeMax Ultimate index 1.5
ราคา: 27,800.- (ราคาปกติ 36,000.-)
เลนส์ SeeMax Ultimate ถือเป็นรุ่นที่ดีที่สุดของ Nikon ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบเลนส์ขั้นสูงที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล ทำให้ได้เลนส์ที่ตอบโจทย์ทุกค่าสายตา พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การมองเห็นที่คมชัดเหนือระดับ
เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุดของ Nikon
- ผู้ที่ต้องการเลนส์ที่คมชัดและตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบ
- ผู้ที่มองหาเลนส์ที่ให้ประสบการณ์การมองเห็นที่แตกต่างและเหนือกว่า
4. Rodenstock Impression B.I.G. Norm™
ราคา: 25,160.- (ราคาปกติ 32,700.-)
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ที่โดดเด่นด้วย Design Technology และ AI Technology ช่วยสร้างประสบการณ์การมองเห็นที่คมชัด สบายตา และตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยและสายตายาวตั้งแต่กำเนิด โดยมีความสามารถพิเศษในการมอบมุมมองที่ชัดเจนและความสวยงามของภาพที่เป็นธรรมชาติ
เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยร่วมกับสายตายาวแต่กำเนิด
- ผู้ที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟที่ปรับตัวง่ายและให้ภาพที่สมจริง
- ผู้ที่มองหาเลนส์ระดับพรีเมียมที่มอบความใสและความคมชัดเหนือระดับ
5. ZEISS SmartLife Progressive Plus index 1.6 (Free PhotoFusion® X)
ราคา 25,160.- (ราคาปกติ 46,800.-)
ข้อดีของเลนส์ ZEISS SmartLife Progressive Plus
- มองชัดทุกระยะ: ใกล้-กลาง-ไกล ด้วยเทคโนโลยี FrameFit™
- ปรับตัวง่าย: ด้วย Adaptation Control™ ลดความไม่สบายตาเมื่อเปลี่ยนเลนส์ใหม่
- ปกป้องดวงตา: กันรังสี UV, ลดแสงสีฟ้า, และเปลี่ยนสีเลนส์ตามแสงแดด (PhotoFusion® X)
- ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์: ทั้งการทำงานในร่มและกิจกรรมกลางแจ้ง
โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะที่ ORRA เท่านั้น
- ฟรี! เคลือบเลนส์เปลี่ยนสี (PhotoFusion X) เพื่อการมองเห็นที่ครบจบในเลนส์เดียว!
- สามารถเลือกกรอบแว่นที่ตอบโจทย์ทั้งสไตล์และการใช้งานในงบประมาณที่เหลือได้ดังนี้:
- BOLON: เริ่มต้นเพียง 3,000.-
- กรอบไทเทเนียม (น้ำหนักเบา): เริ่มต้นที่ 3,500.-
- Levi’s: เริ่มต้นเพียง 3,000.-
- Oakley: เริ่มต้นเพียง 4,000.-
- Tom Ford: เริ่มต้นเพียง 9,500.-
- IC Berlin: เริ่มต้นเพียง 17,000.-
- Lindberg: เริ่มต้นเพียง 19,000.-
ตัดแว่นโปรเกรสซีฟลดหย่อนภาษี e-Tax 2568 ที่ ORRA คุ้มแน่นอน
ใครกำลังมองร้านตัดแว่นใกล้ฉัน ที่เข้าร่วมโครงการ Easy e-Receipt 2.0 หรือ E-Tax 2568 ต้องมาที่ ORRA Progressive Lens Center ให้คุณเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะกับคุณได้ด้วยแบรนด์ชั้นคุณภาพเยี่ยม พร้อมกรอบแว่นในสไตล์ที่ชอบ และลดหย่อนภาษีได้ง่าย ๆ ด้วย Easy E-Receipt 2.0 ปี 68! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0626512365 หรือ Line : ORRA คลินิกแว่นตา