เชื่อว่าหลายคนมักจะมีคำถามเกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟกันอยู่ไม่น้อย ว่าทำไมถึงมีหลากหลายแบบ แถมยังมีราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น
รวมถึงควรจะเลือกซื้อเลนส์โปรเกรสซีฟแบบไหนให้ตอบโจทย์การใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และได้ความคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
4 ข้อควรรู้ก่อนเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะกับคุณมากที่สุด
1. เลือกจากค่าสายตา
แน่นอนว่ายิ่งค่าสายตาของคุณเยอะมากเท่าไร มุมมองในการใช้งานของคุณก็ยิ่งจะลดลง ซึ่งค่าสายตาต่าง ๆ มีผลต่อการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นค่าสายตายาวที่อาจทำให้ภาพบิดเบือนในเลนส์นั้นเพิ่มมากขึ้น หรือค่าสายตาเอียงที่ส่งผลต่อมุมมองการมองเห็นที่น้อยลง
โดยเราขอแนะนำให้คุณเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะกับค่าสายตา เพื่อช่วยให้คุณปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟได้เร็วขึ้น การใช้งานสบายตาที่สุดนั่นเองค่ะ
2. เลือกจากลักษณะของกรอบแว่นตา
ใครว่ากรอบแว่นตาไม่สำคัญ เราขอบอกว่าไม่จริงเลยค่ะ เพราะการเลือกกรอบแว่นที่เหมาะสม จะช่วยเรื่องตำแหน่งการวางของเลนส์ เพื่อให้คุณได้มุมมองในการใช้งานที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
3. คำนึงถึงระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง
ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง หรือ Pupillary Distance (PD) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อให้คุณได้มองเห็นมุมมองการใช้งานที่ดีขึ้นขณะสวมใส่ แถมเพิ่มความสบายตาขณะใช้งานอีกด้วยค่ะ
4. เลือกจากการใช้งานสายตาจริงในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าคุณจะตัดเลนส์หรือแว่นแบบไหน สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะให้ประสิทธิภาพที่แตกต่างกันนั่นก็คือ รูปแบบการใช้สายตาจริงของแต่ละคนนั่นเองค่ะ อย่างเช่นการที่บางคนชอบมองวัตถุใกล้ ๆ ในขณะที่บางคนใช้สายตาในการมองระยะไกลเป็นหลัก เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกเลนส์ให้ตรงกับลักษณะการใช้สายตาของคุณ เพื่อเลือกโครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมมากที่สุดค่ะ
ทำความรู้จัก 6 ระดับของเลนส์โปรเกรสซีฟ
นอกจากวิธีการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมแล้ว เลนส์ชนิดนี้ยังแบ่งออกเป็น 6 ประเภทอีกด้วยค่ะ เราไปดูกันว่าแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
- เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Standard
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เริ่มมีค่าสายตายาว ไม่มีสายตาเอียง และมีค่า PD อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Advance
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีสายตายาวไม่เกิน 2.00 D สายตาเอียงไม่เกิน 1.00 D ค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันไม่เกิน 1.00 D และมีค่า PD อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Premium
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีสายตายาวเกิน 2.00 D สายตาเอียงไม่เกิน 2.00 D ค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันไม่เกิน 1.00 D และมีค่า PD อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Excellence
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีลักษณะดวงตา 2 ข้างอยู่ห่างกันหรือชิดกันมากกว่าปกติ หรือมีค่าสายตาซับซ้อน และต้องการปรับตัวต่อเลนส์ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีค่าสายตายาวเกิน 2.00 D สายตาเอียงเกิน 2.00 D และค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันไม่เกิน 1.00 D
- เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Perfection
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีค่าสายตาซับซ้อน แต่ต้องการการปรับตัวที่รวดเร็ว ได้รับมุมมองในการใช้งานที่กว้าง และสามารถเลือกกรอบแว่นได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกรอบแว่นทรงสปอร์ต หรือกรอบแว่นแฟชั่นนั่นเองค่ะ โดยต้องเป็นผู้ที่มีค่าสายตายาวเกิน 2.00 D สายตาเอียงเกิน 2.00 D ค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันเกิน 1.50 D และมีค่า PD มากกว่าหรือน้อยกว่าค่ามาตรฐาน
- เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Individual
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหาการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีคุณภาพในการมองเห็นสูงสุด สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และใช้งานได้ในทุกกิจกรรม โดยต้องเป็นผู้มีค่าสายตายาวเกิน 2.00 D สายตาเอียงเกิน 2.00 D ค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันเกิน 1.50 D และมีค่า PD มากกว่าหรือน้อยกว่าค่ามาตรฐาน แน่นอนว่าสำหรับเลนส์ประเภทนี้ คุณสามารถเลือกกรอบแว่นตาได้อย่างอิสระ และออกแบบโครงสร้างเลนส์ได้เองอีกด้วยค่ะ จะตัดเลนส์โปรเกรสซีฟทั้งที ก็ต้องคำนึกถึงหลากหลายปัจจัยที่เหมาะสมและคุ้มค่าจริงไหมล่ะคะ? สำหรับใครที่กำลังมองหาเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพสูง ที่คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ
เข้ามาเลือกชมได้ที่ ORRA เรามีทีมนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาและดูแลโดยเฉพาะ พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประเมินสุขภาพดวงตาและวัดสายตาได้อย่างละเอียดแม่นยำ อีกทั้งยังมียี่ห้อเลนส์ให้คุณเลือกหลากหลาย เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และดีต่อสุขภาพตามากขึ้นค่ะ